AV Comm Thailand - World Didac Asia 2011

World Didac Asia 2011

                ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม พ.ศ.2554 ผมยุ่งมากๆ แถมยังโดนอาชญากรข้ามชาติ พยายามหลอกล่อให้ผมโอนเงินไปให้เขา โดยการอ้างตัวตนเป็นคู่ค้า เล่นเอาทั้งผมและคู่ค้าตัวจริงที่ผมได้โอนเงินไปให้ พากันหัวปั่นไปหมด
                พอน้ำท่วมกำลังเข้ากรุงเทพฯ พนักงานของผม ต่างทยอยหยุดงาน ไปสร้างคันกั้นน้ำและในที่สุดก็เผ่นหนีไปต่างจังหวัด เมื่อน้ำท่วมเข้ามาถึง ส่วนคู่ค้าในประเทศก็ไม่ยอมติดต่อมา แถมเครื่องพริ้นเตอร์เลเซอร์สีและเครื่องอัดสำเนา Rizograph ก็เสีย เมื่อให้มาตรวจซ่อม ต่างอ้างว่าช่างออกต่างจังหวัดกันหมด
                เมื่อถึงวันงาน World Didac Asia 2011 คือ เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 26 แล้วจบลงวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2554 ผมจึงรีบจัดการงานในสำนักงาน แล้วนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
                เมื่อถึงสถานีศูนย์ประชุมฯ ปรากฏว่ามีเพียงผมคนเดียวที่ลงจากรถ เมื่อเดินเข้าประตูศูนย์ทางด้านโรงอาหาร ก็ยังคงเป็นผมคนเดียว จนกระทั่งขึ้นบันไดมาถึงพอยเอ (foyer) ถึงเห็นประกาศตารางการบรรยายและส่วนรับสมัครผู้เข้าชมงาน ผมถึงได่รู้ว่ามีงานแน่
                งานนี้ผมลงทะเบียนล่วงหน้าทางอินเตอร์เนท แต่ไม่มีการยืนยัน และเมื่อสอบถามที่หน้างานก็ไม่มีชื่อของผม เลยต้องลงทะเบียนแบบ Walk In ใหม่อีกรอบ ก็เสียเวลานิดหน่อย เหตุที่ไม่มีชื่อของผมลงทะเบียนล่วงหน้าอาจเป็นเพราะผมเพิ่งจะลงทะเบียน 1 อาทิตย์ก่อนงานเริ่ม และทางเขาอาจปิดรับการลงทะเบียนทางอินเตอร์เนทแล้วก็ได้
                เมื่อเดินเข้าไปชมงานนิทรรศการ พบว่าพอจะมีผู้เข้าชมประปราย แต่ยังมีที่ว่างเหลืออยู่เล็กน้อย รวมทั้งบางบูธไม่ปรากฏตัวผู้ออกงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของผู้แสดงสินค้าจากไต้หวันและประเทศจีน และก็มีบ้างที่ปล่อยให้ตัวแทนจำหน่วยในประเทศไทย เอาสินค้าที่มีในสต็อกมาโชว์ จึงไม่มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ เช่นทุกๆครั้ง
                เช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ เขาจะจัดซุ้มประเทศต่างๆที่มาแสดงสินค้า เรียกว่า ศาลา ซึ่งศาลาที่ยังยิ่งใหญ่ยังคงเป็นของประเทศเยอรมนี ที่มีชุดทดสอบและชุดทดลองทางอีเลคทรอนิกส์และกลไกเป็นหลัก เหมาะสำหรับการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย
                ศาลาประเทศเกาหลีใต้ ก็ถือว่าใหญ่เหมือนกัน สินค้าชูโรงยังคงเป็นหุ่นยนต์ ศาลาประเทศสหราชอาณาจักร ไม่เน้นอะไรพิเศษ แต่ก็ค่อนข้างใหญ่ ส่วนศาลาประเทศจีน เน้นหุ่นคน พืช และสัตว์ รวมทั้งชุดทดลองทางวิทยาศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษา
                ประเทศอินเดียไม่มีศาลาของตนเอง แต่สินค้าที่เขามาโชว์ดูน่าสนใจดี และเคยมาออกงานในครั้งก่อนแล้ว ซึ่งเป็นจำพวกงานอีเลคทรอนิกส์ ซึ่งเช่นเดียวกับประเทศของไต้หวัน ที่ไม่มีศาลาของตนเอง รวมทั้งของประเทศไทย ที่ไม่มีศาลาของตนเองเช่นกัน
                สินค้าที่ดาหน้าประชันกันครั้งนี้ ผมยกให้กระดานอัจฉริยะ ซึ่งน่าจะเป็นของจีนทั้งหมด ที่มีไม่ต่ำกว่า 7-8 ราย น่าแปลกใจที่เจ้าตลาดอย่าง SmartBoard ก็ไม่มา รวมทั้ง ActivBard ที่ทุกครั้งจะทุ่มทุนสร้าง ซุ้มของตนเองอย่างใหญ่โต และมีการบรรยายสินค้า
                สินค้าที่ประชันกันมากเป็นอันดับสอง น่าจะเป็นชุดสอนภาษา แต่ส่วนใหญ่หรือทั้งหมดจะเป็น Software Base ไม่ใช่ Hardware Base คงจะเป็นที่ราคาถูกกว่า Hardware Base โดยผู้นำมาแสดงมีทั้งเยอรมนี ญี่ปุ่น ฮ่องกง และจีน
                ที่ส่งเสียงอึกทึก ในครั้งนี้คือ บูธของคอมพิวเตอร์ DELL ที่มีพริทที มีแจกรางวัล ตลอดงาน แทนเกาหลีใต้ที่เป็นแชมป์ครั้งก่อนที่ขนหุ่นยนต์ออกมาเต้นระบำ เป็นฝูงใหญ่ๆ ส่วนบูธที่ตกแต่งมากกว่าคนอื่นน่าจะเป็นอักษรเจริญทัศน์ (อจท)
                ในด้านความยิ่งใหญ่ของงาน ผมว่าคงจะลดขนาดลงไปพอสมควร เพราะแต่ก่อนจะมีห้องบรรยาย 5 ห้อง ส่วนห้อง Planary จะใช้แสดงนิทรรศการทั้งหมด แต่คราวนี้ ส่วนหนึ่งของ Planary ถูกแบ่งไว้ใช้บรรยาย
                เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำให้ผมนึกถึง การโฆษณางานครั้งนี้ที่ AV Comm ได้ช่วยลง Link ให้กับงานนี้ และงานผมได้ทำโฆษณางานนี้ที่เวบ www.avcommthailand.com ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว รวมทั้งงาน Educa 2011 โดยไม่ได้ขอค่าตอบแทนอะไร แต่เมื่อต้นเดือนกันยายน ผมโทรไปทั้ง 2 นิทรรศการว่าได้ลงโฆษณางานให้ โดยไม่เรียกร้องผลตอบแทน จึงขอตั้งโต๊ะแนะนำ AV Comm แต่ทั้ง 2 ราย ไม่ตกลงให้ฟรี ผมก็ไม่ต่อว่าและยังคงลงโฆษณาให้จนหลังงานเลิก
                ที่เอ่ยถึงการขอโต๊ะแนะนำเวบ AV Comm ก็เพราะในงาน World Didac Asia 2011 มีที่ว่างมากพอสมควร ซึ่งเขาน่าจะเอื้อเฟื้อให้กับผมบ้าง และยิ่งมีบูธจากจีนและไต้หวันหลายเจ้าไม่มา ยิ่งทำให้งานดูโหลงเข้าไปอีก
                พอวันงานที่ 2 ผมมีนัดกับนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้ ที่โรงแรม Swiss Concord ทำให้ผมเข้าชมงานได้ในช่วงบ่าย และพบว่าเริ่มมีผู้ออกแสดงสินค้าเก็บข้าวของกลับหลายราย
                พอวันสุดท้ายปรากฏว่ายิ่งมีผู้เก็บของกลับมากขึ้น รวมทั้งผู้จัดงานได้งดการบรรยายในช่วงบ่าย โดยไม่บอกแก่สาธารณะชน รวมทั้งผู้ออกงานก็ไม่ทราบ จึงทำให้คนที่มาฟังการบรรยายผิดหวัง และผู้ออกบูธก็เริ่มพะวักพะวง
                เหตุการณ์ข่าวน้ำท่วมกรุง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้งานกร่อย แต่ผมว่าเป็นงานที่ดี และจะยังช่วยโฆษณาให้สำหรับครั้งต่อไป